วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อเจ้าพนักงาน(การกระทำความผิดเกี่ยวกับการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน)

การดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวเนื่องมาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นเอง เหตุที่กฎหมายต้องคุ้มครองเจ้าหน้าที่นั้น ก็เนื่องมาจากการที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับประชาชนอยู่ตลอดเวลาและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้นบางครั้งก็เป็นการปฏิบัติงานในลักษณะของการบังคับ การตรวจสอบ ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดสิทธิพื้นฐานบางประการ เช่น การตรวจค้นตัวบุคคล หรือตรวจค้นยานพาหนะเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ในบางครั้งก็สร้างความไม่พอใจขึ้นกับพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ที่อาจจะมองไปได้ว่า ตัวเองถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นเมื่อความไม่พอใจเกิดขึ้น ก็อาจจะเกิดการยั่วยุ การกล่าวหา หรือการด่าว่าเจ้าหน้าที่ อันเนื่องมาจากการทำงานดังกล่าวได้ และหากไม่มีกฎหมายคุ้มครองเจ้าหน้าที่เอาไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ดีๆ ที่ทำงานรับใช้ประเทศชาติประชาชน
อาจจะหมดกำลังใจ หรือเกิดความท้อแท้ที่จะทำงานต่อไปได้
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ได้วางหลักแห่งความผิดเอาไว้ว่า "ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะ
ได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษ" ตามหลักกฎหมายข้างต้น ผู้ที่ทำความผิดนี้ จะต้องได้
1. มีเจตนา (ที่จะทำ)
2. ดูหมิ่น (การดูหมิ่น หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม ทำให้อับอาย ทำให้เสียหาย สบประมาท หรือการด่า หรือการดูถูก ซึ่งเป็นเรื่อง
ของการลดคุณค่าของผู้ถูกดูหมิ่นในทางสังคมลงมา การดูหมิ่นอาจจะกระทำด้วยคำพูด หรือว่าแสดงท่าทางออกมาก็ได้ และต้องดูหมิ่นเจ้าหน้าที่
คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง)
3. เจ้าหน้าที่ (ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ และในขณะที่ถูกดูหมิ่นก็ต้องอยู่ในระหว่างเวลาการทำงานอยู่)
4. ซึ่งได้ทำตามหน้าที่ หรือเพราะได้ทำหน้าที่ (ต้องเป็นหน้าที่ตามตำแหน่งงานนั้นๆ)

ตัวอย่างเช่น
ในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และใบอนุญาตในการขับขี่รถยนต์ และรถจักยานยนต์ นายสมศักด์ ได้ถูกจ่าชัดชัยเข้าเรียกค้นดู และปรากฏว่านายสมศักดิ์ไม่มีใบขับขี่รถจักยานยนต์ จึงถูกจ่าชัดชัยจับ และต้องทำให้นายสมศักดิ์ ต้องมีการเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 300 บาท แล้วหลังจากนั้น นายสมศักด์ ได้ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า เทศโก้โลตัสภูเก็ต จึงได้เห็นจ่าชัดชัยกำลังเลือกซื้อแหวนเพ็ชรให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ นายสมศักดิ์ จึงเกิดอาการโกรธ และได้เข้าไปต่อว่าจ่าชัดชัยว่า ทำเป็นเรียกให้มีการเสียค่าปรับ แท้จริงก็เพียงหวังจะเอาเปอร์เซ็นในส่วนนั้นมาเพื่อที่จะมาซื้อแหวนให้สาวนั่นเอง
ฉะนั้นการกระทำของนายสมศักดิ์ จึงเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 136

นางสาว พัชรินทร์ แสวงหา
เลขที่ 21 รปศ.502 ผู้เขียน

1 ความคิดเห็น: